![]() |
สงบได้เมื่อใจยอมรับ |
มีผู้หญิงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เคยไปว่ายน้ำที่เกาะสมุย ว่ายอยู่ดี ๆ ก็พบว่าตัวเองถูกกระแสน้ำพัดไกลจากฝั่งออกไปทุกที เธอพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่ง แต่ว่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งไกลจากฝั่งมากขึ้น เธอตกใจมากร้องตะโกนขอให้เพื่อนช่วย เพราะถูกพัดออกทะเลไกลขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากอยู่กลางกระแสน้ำที่เชี่ยวแรงมาก เพื่อน ๆ พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก็พยายามว่ายไปช่วยเธอ แต่พอว่ายได้สักพักก็รู้สึกว่ากระแสน้ำแรงมาก จึงเปลี่ยนใจ พยายามว่ายกลับเข้าฝั่ง ตัวเธอเองยิ่งว่ายเข้าฝั่ง ก็ยิ่งเหนื่อย แถมไกลฝั่งออกไปเรื่อย ๆ จึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ ตอนนั้นรู้เลยว่าคงไม่รอดแล้ว แต่แทนที่จะตื่นตกใจ เธอกลับรู้สึกสงบ เพราะทำใจได้ว่า ถ้าจะตายก็ต้องตาย พอทำใจได้เธอก็ปล่อยวาง อยู่เฉย ๆ ลอยคอนิ่ง ๆ ไม่ฝืนว่ายต่อไป ตอนนั้นเธอรู้สึกสงบมาก ผ่านไปพักใหญ่ก็พบว่าตัวเองถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งทีละน้อย ๆ เพื่อนเห็นเช่นนั้น ก็ว่ายออกมาช่วยเธอ พาขึ้นฝั่งได้ในที่สุด หลังจากนั้นเธอก็มารู้ว่าตรงที่เธอว่ายน้ำนั้นมีกระแสน้ำเชี่ยวมากที่เกิดจากคลื่นกระทบฝั่ง ไม่มีใครที่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำได้ ส่วนใหญ่ตายเพราะหมดแรง ที่เธอรอดมาได้ก็เพราะทำตัวนิ่ง ๆ ไม่ฝืนว่ายด้วยความตื่นตระหนก และที่เธอทำตัวนิ่งได้ก็เพราะยอมรับความตายได้ ไม่ขัดขืนหรือต่อสู้กับมัน เวลาเจอเหตุร้ายที่หนีไม่พ้น ไม่มีอะไรดีกว่าการยอมรับมันด้วยใจสงบ บ่อยครั้งการทำเช่นนั้นกลับทำให้รอดตายด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามการพยายามต่อสู้ขัดขืน กลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง จนอาจไม่รอดก็ได้ ผู้หญิงอีกคนหนึ่งเล่าว่า ขณะที่กำลังขับรถบนทางด่วนด้วยความเร็วสูง พอผ่านทางโค้งก็เห็นข้างหน้ามีรถติดเป็นแพ เธอเริ่มชะลอความเร็ว แต่พอมองกระจกหลัง ก็เห็นว่ารถคันหลังไม่ชะลอ กลับแล่นตรงเข้ามาเต็มที่ เธอรู้เลยว่าเธอกำลังถูกอัดก๊อปปี้ ความคิดตอนนั้นบอกเธอว่าคงไม่รอด ตอนรู้ตัวว่าจะไม่รอดเธอสังเกตว่ามือกำพวงมาลัยอยู่แน่นมาก เธอคิดขึ้นมาว่าเครียดแบบนี้มาทั้งชีวิตแล้ว ถ้าจะตายก็ขอตายแบบผ่อนคลาย เลยปล่อยมือจากพวงมาลัย นั่งอย่างผ่อนคลาย หลับตา แล้วก็มาจดจ่ออยู่กับลมหายใจ จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่น แล้วเธอก็หมดความรู้สึกตัว มารู้ตัวอีกทีตอนที่ตำรวจช่วยดึงเธอออกมาจากรถ ตำรวจแปลกใจมากที่เธอรอดมาได้โดยไม่เป็นอันตรายอะไรทั้ง ๆ ที่รถพังยับเยินทั้งหน้าและหลัง แต่หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวของเธอ ตำรวจก็บอกว่าถ้าคุณเกร็งตอนนั้นคุณคงไม่รอด เพราะถ้าเธอตัวเกร็ง ก็จะต้องเจอแรงกระแทกเต็มที่ เธอบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ผ่อนคลายและปล่อยวางมากขึ้น ไม่เคร่งเครียดหรือเอาเป็นเอาตายกับสิ่งต่าง ๆ เธอได้เห็นคุณค่าของการปล่อยวางมากขึ้น ตัวอย่างจากผู้หญิงคนนี้ชี้ว่า การยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งความตายนั้น ไม่เพียงทำให้ใจสงบเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้รอดตายได้ด้วย ประเด็นที่อยากจะเน้นคือคนเราเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่พึงปรารถนา แทนที่จะต่อสู้ขัดขืน อย่างแรกที่ควรทำคือยอมรับมัน ไม่ปฏิเสธหรือต่อสู้ขัดขืน อย่างน้อย ๆ มันช่วยทำให้เราทุกข์ใจน้อยลง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของหาย งานหนัก หรือความเจ็บป่วย เมื่อเจ็บป่วยแล้วบ่นตีโพยตีพาย คุณจะทุกข์กว่าเดิม ไม่ใช่แค่ทุกข์กายเท่านั้น แต่ทุกข์ใจด้วยแต่ถ้ายอมรับว่าเมื่อความป่วยเกิดขึ้นกับเราแล้ว ป่วยการที่จะตีโพยตีพายหรือปฏิเสธมัน แทนที่จะตีโพยตีพาย ไม่ดีกว่าหรือหากเราจะมาพิจารณาว่าจะรักษาตัวอย่างไรให้หายป่วย การยอมรับไม่ใช่การยอมจำนน แต่หมายถึงการยอมรับความจริงว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ไม่ เสียเวลาหรือเสียอารมณ์ด้วยการตีโพยตีพายโวยวาย แต่เราจะยอมรับความจริงได้ก็ต้องมีสติรู้ทันใจของตัวเอง เพราะปฏิกิริยาแรกของใจก็คือการโวยวาย ต่อสู้ ขัดขืน ผลักไส เป็นธรรมดาของใจเมื่อเจอสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ใจก็จะผลักไสต่อต้านเป็นอย่างแรก ถ้าหนีไม่ได้ก็จะผลักไส แต่ถ้ามีสติรู้ทันอาการดังกล่าว มันก็จะคลายไป ช่วยทำให้ใจเราสงบ เพราะความสงบเกิดจากการยอมรับ แต่ถ้าเราดิ้นขัดขืนเมื่อไหร่ใจจะเป็นทุกข์ เร่าร้อนทันที |
รวบรวมงานเขียนและบทความของพระไพศาล
วิสาโล www.visalo.org korobiznet
เอื้อเฟื้อพื้นที่
|