![]() |
แบ่งปันบน
facebook Share
|
ที่สำนักเซนแห่งหนึ่งในอเมริกา เมื่อมีการอุปสมบทพระใหม่จะมีพิธีกรรมปุจฉา-วิสัชนา โดยพระใหม่จะกล่าวกับอุปัชฌาย์ว่า “การปฏิบัติธรรมคืออะไร? โปรดสอนกระผมเรื่องการช่วยเหลือผู้อื่น” อุปัชฌาย์จะกล่าวว่า “อะไรนะ ช่วยเหลือผู้อื่นหรือ? ท่านต้องช่วยตัวเอง” “กระผมจะช่วยตัวเองได้อย่างไร?” พระใหม่ปุจฉา “ดูแลผู้อื่น” คือคำตอบของอุปัชฌาย์ ช่วยตนเองด้วยการดูแลผู้อื่น ไม่ใช่เป็นแนวคิดของเซนเท่านั้น ที่จริงเป็นคำสอนดั้งเดิมของพุทธศาสนา ดังมีพุทธพจน์ว่า “เมื่อรักษาผู้อื่นก็คือรักษาตน.....ข้อนี้หมายความว่า รักษาผู้อื่นด้วยการอดทน ด้วยการไม่เบียดเบียน ด้วยเมตตาจิต ด้วยความรักใคร่เอ็นดู นี้แหละคือเมื่อรักษาผู้อื่นอยู่ จะมีผลเป็นการรักษาตนด้วย” พุทธศาสนามองว่า ความผาสุกของตน กับความผาสุกของผู้อื่นนั้นไม่ได้แยกจากกัน เราจะผาสุกได้ต่อเมื่อผู้อื่นมีความผาสุกด้วย นิรมล เมธีสุวกุลเล่าว่า คราวหนึ่งได้ไปถ่ายทำสารคดีในหมู่บ้าน ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ คุณป้าคนหนึ่งถือปลาพวงใหญ่มาแล้วถามทีมถ่ายทำว่า “รู้ไหมว่า ปลาพวงนี้ทำอย่างไรจึงจะกินได้นาน” แต่ละคนก็ให้คำตอบต่าง ๆ กัน เช่น หมักบ้าง ตากแดดบ้าง ใส่ตู้เย็นบ้าง “ผิดหมดเลย” คุณป้าตอบ “ต้องเอาไปแบ่งเพื่อนบ้านให้ทั่วถึง” หลายคนสงสัยว่าถ้าแบ่งให้คนอื่น เราก็ได้กินน้อยลงสิ จะมีกินนาน ๆ ได้อย่างไร แต่ชาวบ้านอย่างคุณป้ามองว่า ถ้าเรามีน้ำใจแบ่งปลาให้เพื่อนบ้าน เวลาเพื่อนบ้านจับปลาได้ ก็จะแบ่งให้เรา ทำให้มีปลากินได้เรื่อย ๆ ท่านอาจารย์พุทธทาสก็พูดทำนองเดียวกันว่า ข้าวที่เรากินนั้น แค่วันเดียวมันก็กลายเป็นอุจจาระ แต่ถ้าเราแบ่งให้ผู้อื่น มันก็จะอยู่ในใจเขานานเท่านาน ที่จริงนี้ไม่ใช่ภูมิปัญญาของชาวบ้านไทยเท่านั้น แต่เป็นภูมิปัญญาสากล มีเกษตรกรชาวอเมริกันผู้หนึ่งในรัฐไอโอวา เขาเป็นเจ้าของพันธุ์ข้าวโพดคุณภาพดีที่ได้รางวัลชนะเลิศติดต่อกันหลายครั้งในการประกวดระดับรัฐ แทนที่จะหวงพันธุ์เหมือนคนอื่น เขาชอบแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดที่ดีที่สุดให้แก่ชาวไร่ทุกคนในละแวกเดียวกัน เมื่อถูกถามถึงเหตุผล เขาตอบว่า “ถ้าเพื่อนบ้านผมปลูกข้าวโพดพันธุ์ไม่ดี ละอองเกสร(ที่ลอยมาจากไร่ข้างเคียง)จะผสมข้ามพันธุ์ ทำให้ข้าวโพดของผมมีคุณภาพลดลง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงให้ความสำคัญกับการที่คนเหล่านั้นจะต้องปลูกข้าวโพดพันธุ์ดีที่สุดจริง ๆ” ชาวไร่ผู้นี้รู้ดีว่า ถ้าอยากให้ผลผลิตในไร่ของเขาดี ไร่รอบ ๆ ก็ต้องดีด้วย เขาไม่อาจประสบความสำเร็จได้หากคนอื่นย่ำแย่ ในทำนองเดียวกันถ้าเราต้องการความสุข ก็ควรช่วยให้ผู้อื่นมีความสุขด้วย อย่างไรก็ตามเราไม่ควรเกื้อกูลผู้อื่นเพียงเพราะหวังประโยชน์ตนเท่านั้น แต่ควรก้าวไปอีกขั้น คือทำเพราะมีความปรารถนาดีต่อเขาเป็นที่ตั้ง แต่ถึงแม้จะไม่ได้ทำดีเพราะมุ่งหวังประโยชน์ที่จะเกิดแก่ตนเอง แต่ก็ขอให้มั่นใจได้ว่า ผลดีย่อมเกิดขึ้นแก่ตนเองอย่างแน่นอน ผลดีที่ว่าไม่ได้หมายถึงชื่อเสียงเกียรติยศหรือภาพลักษณ์ แต่ประเสริฐยิ่งกว่านั้นอีก “น้องด้าย” เด็กหญิงอายุ ๑๔ ไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเด็กอ่อนที่บ้านปากเกร็ด หลังจากที่ไปช่วยได้ไม่กี่เดือน แม่สังเกตว่า เธอนิ่งและสุขุมขึ้น รับฟังคนอื่นมากขึ้น และใช้อารมณ์กับแม่น้อยลง ไม่ต่างจาก “กบ” นักธุรกิจวัย ๓๐ ปลาย ๆ เขารู้สึกว่าตนเองใจเย็นขึ้น แม้แต่ลูกน้องก็ทักว่าเขาพูดนุ่มนวลกว่าเดิม ไม่โผงผางเหมือนเก่า เหตุผลก็เพราะ เวลาอยู่กับเด็ก เขาต้องใช้ความอดทนและความอ่อนโยน จะทำตามอารมณ์ไม่ได้ เขายังเล่าด้วยว่า “ในขณะที่เราพยายามจะให้เขามีพัฒนาการที่ดี เขาก็ช่วยขัดเกลาให้เราอ่อนโยนในเวลาเดียวกันด้วย" การช่วยเหลือผู้อื่นนั้น ช่วยขัดเกลาและปรับปรุงจิตใจของเราโดยไม่รู้ตัว ทำให้เราเห็นแก่ตัวน้อยลง และมีจิตใจอ่อนโยนมากขึ้น ที่สำคัญอีกประการก็คือ ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ทีแรกคิดจะไปให้ความสุขแก่เขา กลับกลายเป็นว่า เขาให้ความสุขแก่เรา สอดคล้องกับพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข” ดังนั้นถ้าเรารักตนเองจริง ๆ อยากให้ตนเองมีความสุขและมีจิตใจเจริญงอกงาม ควรช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นมาก ๆ เพราะ “รักษาผู้อื่นก็คือรักษาตน”
|
รวบรวมงานเขียนและบทความของพระไพศาล
วิสาโล www.visalo.org korobiznet
เอื้อเฟื้อพื้นที่
|