|
“ยุพิน” หนีความอึกทึกวุ่นวายกลางกรุงด้วยการมาอยู่บ้านชานเมือง ๒-๓ ปีแรกชีวิตเธอสงบราบรื่น แต่หลังจากชายผู้หนึ่งย้ายมาอยู่บ้านติดรั้วเดียวกับเธอ เธอก็ต้องเจอเรื่องขุ่นใจอยู่เนือง ๆ เพราะเขาชอบนำขยะมาทิ้งหน้าบ้านเธอเป็นประจำตอนค่ำคืน เธอเคยนิ่งเฉยไม่ทำอะไร ปรากฏว่ารุ่งเช้าหมาจรจัดก็มาคุ้ยเขี่ยขยะจนกระจุยกระจายเลอะเทอะ เธอทนไม่ได้ ต้องกวาดขยะหรือเก็บไปทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเคยท้วงติงเขาแต่ก็ไม่เกิดผล ครั้นท้วงหนักเข้าก็เกิดปากเสียงกัน เป็นเช่นนี้ประจำ จนเธอระอา ไม่อยากคุยด้วย ผลก็คือการกวาดขยะหน้าบ้านทุกเช้ากลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอ สร้างความหงุดหงิดขุ่นเคืองและคับแค้นใจแก่เธอมาก กวาดไปก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่าเพื่อนบ้านในใจ เดี๋ยวนี้เวลาอยู่บ้านเธอไม่มีความสุขเหมือนเดิม เพราะแค่เห็นบ้านที่อยู่ติดรั้ว ใบหน้าของเพื่อนบ้านคนนั้นก็ลอยขึ้นมาทันที ทำให้เธอรุ่มร้อนจนความดันขึ้นได้ง่าย ๆ ใครที่มีประสบการณ์อย่างเดียวกับยุพินคงหาความสงบสุขได้ยาก หลายคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเพื่อนบ้านแบบนี้เป็นเสมือน “มาร” ที่คอยรังควานชีวิต อย่างไรก็ตามคงไม่ถูกนักหากจะบอกว่าเพื่อนบ้านหรือขยะที่กองอยู่หน้าบ้านคือตัวการสร้างความทุกข์ใจแก่ยุพิน ที่จริงสาเหตุอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก อยู่ที่จิตใจของยุพินเองด้วย ได้แก่ใจที่รู้สึกเป็นลบหรือปฏิเสธผลักไสขยะเหล่านั้น รวมทั้งความโกรธเคืองเพื่อนบ้าน หากรู้สึกลบกับขยะ ก็เป็นทุกข์ทันทีที่เห็นขยะ แม้ยังไม่ได้ลงมือกวาดมันด้วยซ้ำ ในทำนองเดียวกันหากรู้สึกชิงชังเพื่อนบ้าน แค่เห็นหลังคาบ้านเขาหรือนึกถึงหน้าเขา จิตใจก็ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที เพื่อนบ้านที่น่ารักเป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ ส่วนการขับไสหรือกำจัดเพื่อนบ้านที่น่าระอาออกไปเราก็ทำไม่ได้เช่นกัน แต่ใจเรานั้นอยู่ในวิสัยที่เราจะจัดการได้ ระหว่างการกวาดขยะด้วยใจที่สงบเป็นสมาธิ กับการกวาดไปบ่นไปหรือกวาดไปก็ด่าไป อะไรที่เกื้อกูลต่อสุขภาพจิตของเรามากกว่ากัน จะกวาดด้วยใจแบบไหนเป็นสิ่งที่เราเลือกได้และทำได้ ที่ผ่านมายุพินเลือกกวาดด้วยใจที่หงุดหงิด แต่หากเธอเลือกกวาดด้วยใจที่สงบ เธอก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยการมีสติอยู่กับการกวาด ไม่ปล่อยใจลอยไปที่อื่น หากใจเผลอไปนึกถึงหน้าเพื่อนบ้าน ก็รู้ทันแล้วดึงจิตกลับมาอยู่กับการกวาด แต่หากไม่มีสติเสียแล้ว แม้มือจะกวาดขยะออกไปให้ไกลบ้าน แต่ใจกลับเก็บขยะอารมณ์มาสุมกองไว้ข้างใน ในเมื่อจะกวาดขยะทั้งที ก็ควรกวาดขยะออกไปจากใจด้วย หากยุพินลองเปลี่ยนมุมมอง แทนที่จะมองว่าขยะเป็นปัญหาที่มารบกวนจิตใจของเธอ ก็มองว่ามันเป็นการบ้านที่ฝึกใจเธอ ไม่ใช่แค่ฝึกให้อดทนเท่านั้น แต่ยังฝึกให้มีสติ รู้ทันอารมณ์ขุ่นมัวที่เกิดขึ้น อย่าลืมว่าสิ่งที่ขัดใจเรานั้นสามารถขัดใจเราให้มีกิเลสเบาบาง มีตัวตนเล็กลงได้ด้วย กับเพื่อนบ้านก็เช่นกัน แทนที่ยุพินจะปล่อยให้ความรู้สึกลบเกาะกินใจเธอ ลองแผ่เมตตาให้แก่เขาบ้าง ความรุ่มร้อนในใจก็จะบรรเทาลง คนที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ที่จริงก็น่าสงสาร เพราะคงหาคนที่รักและจริงใจกับเขาได้ยาก จะว่าไปคนแบบนี้ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีหลายคนแก้ปัญหาเพื่อนบ้านที่ไม่น่ารักด้วยการทำให้เขามาเป็นมิตร โดยเป็นฝ่ายหยิบยื่นไมตรีให้เขาก่อน ชายผู้หนึ่งเจอปัญหาหนักกว่ายุพินเสียอีก เพราะมีการก่อสร้างตึกใหม่ข้างบ้านเขา คนงานก่อสร้างโยนขยะลงมายังสนามหญ้าในบ้านเขาเป็นประจำ เขาเคยออกไปต่อว่าคนงานเหล่านั้นหลายครั้ง ก็ไม่เป็นผล อีกทั้งจับมือใครดมไม่ได้เพราะคนงานก่อสร้างมีหลายคน แทนที่จะโกรธ เขาเปลี่ยนมาใช้วิธีใหม่ นั่นคือ เอาขนมหรือผลไม้ไปให้แก่คนงานก่อสร้างรวมทั้งผู้คุมงานอยู่เนือง ๆ เจอหน้ากันก็ทักทายไต่ถาม จนมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน กลายเป็นเพื่อนบ้านกันจริง ๆ ปรากฏว่าไม่นานขยะก็หายไปจากสนามหญ้าของเขา เพราะไม่มีใครโยนมาอีกเลย ทั้งนี้ก็เพราะเมื่อเป็นเพื่อนกันแล้ว คนงานก่อสร้างเหล่านั้นก็รู้สึกเกรงใจ ไม่ทำตามใจดังแต่ก่อน เพื่อนบ้านนั้นจะต้องอยู่กับเราอีกนาน ดังนั้นแทนที่จะเป็นศัตรูกัน สร้างความเป็นมิตรต่อกันจะดีกว่า แม้เพื่อนบ้านที่น่าระอาก็สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้หากกลายเป็นมิตรกับเรา แต่ก่อนอื่นเราต้องพยายามเป็นมิตรกับเขาก่อน ด้วยการหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้เขา การให้หรือการแบ่งปันนั้นเป็นสิ่งประสานใจที่มีอานุภาพมาก หากทำด้วยความจริงใจแม้แต่ศัตรูก็กลายเป็นมิตรได้ |
รวบรวมงานเขียนและบทความของพระไพศาล
วิสาโล www.visalo.org korobiznet
เอื้อเฟื้อพื้นที่
|
![]() |