จิตสุดท้ายไปไหน วารสารธรรม(ะ)ชาติบำบัด
แบ่งปันบน facebook Share
|
|
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ -----จดหมายจากอาจารย์ปิ่นแก้วผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ระยะสุดท้าย----- สวัสดีค่ะ เมื่อคืนปิ่นส่งไปแล้ว 1 mail วันนี้ขอรายงานผลไปฟังตับ ลืมจำชื่อคุณหมอ พี่ตุ๊ค่ะปิ่นก็พร้อมที่จะไปอยู่กับป้าไพจิต (ผู้ป่วยมะเร็งในเครือข่ายที่เพิ่งถึงแก่กรรมไป) แต่เร็วเกินไปตั้งตัวไม่ติด เขา(สามี) ไปโรงพยาบาลด้วยแต่เขาก็ไม่ถามอะไรสักคำ เดินก็นำหน้า ถ้าเราร่วงก็คือคนอื่นช่วยเราก่อนที่เขาจะเห็น ก็พยายามมองบวกว่าเขาก็ยังเป็นธุระพาเราไปหาหมอ ทำกับข้าวให้กินตามเวลา จะเห็นหน้าเขาก็ 3 เวลาเหมือนอาหารเช่นกัน คืนวันที่13 ตอนตี 2.39 นาที ต้องคลานไปเคาะประตูห้องเขา คือลมตีขึ้นหายใจไม่ออกจริงๆอยากมีคนลูบหลังเพื่อให้อาเจียน แต่ลูบหลังให้ตัวเองไม่ได้จึงต้องคลานไปรบกวนเขา สงสารลูกที่บอกเขาว่าแม่คงได้เห็นเบสจบ ม.6 ให้เขาไปสอบจ่าอากาศที่กรุงเทพฯ เขาไม่ยอมไปอ้างว่าห่วงแม่มันไกล ก็ยังเหลือลูกนี่แหละยังมีความรักให้เรา คนรอบข้างก็มีแต่คนดีมีน้ำใจให้ความห่วงใย เรื่องนี้ปิ่นคิดว่าจะยังไม่บอกใครเพราะเขาจะต้องลำบากเดินทาง เสียเวลาที่งาน เงินในการเดินทางมาเยี่ยมเรา เพราะที่สุดแล้วก็ .......ตาย ถามว่าจิตตกไหม ตอบว่าจิตตกเหมือนกัน เพราะหมอกิตติพงษ์(ศัลยแพทย์ที่รักษาเขาประจำ)บอกว่าไม่มีอะไร ปิ่นก็สบายใจก็คิดว่าอีก 1-2 ปี ก็จะครบ 5 ปี แต่คิดว่าไม่ถึงหรอกแค่ 1 ปี ก็ดีแล้ว แต่พอเป็นอย่างนี้จะถึง 2 เดือนหรือไม่ก็ยังไม่รู้ ซึ่งสิ่งที่คิดว่าจะทำยังเหลืออีก 2-3 อย่าง เวลาที่เหลือ ปิ่นอยาก 1.เห็นลูกบวชครองผ้าเหลือง พี่ตุ๊คะ เมื่อจิตเราออก จากร่างเราไปไหนเหมือนกับที่เราอ่านหนังสือหรือไม่ พี่อาจจะตอบว่ายังไม่ตายเลยไม่่รู้ แต่ที่ถามเพราะท่านเป็นผู้ศึกษาธรรมะมากกว่าได้เจอพระอาจารย์เยอะท่านเคยพูด อะไรให้ฟังบ้างคะ ในความรู้สึกถ้าเราไปในเส้นทางที่เราไม่เคยไปก็กลัวหลงทางต้องคอยมองป้าย ข้างถนน หลักกม.เพื่อให้ถึงที่หมาย แต่ไปคราวนี้ปิ่นอยากเตรียมเดินทางบ้างกลัวจิตตัวเองจะพาไปตกขุมนรกถ้าได้ รับคำชี้แนะ(แผนที่นำทาง)บ้าง เมื่อตอนใจขาดจะได้ลดความกลัวความตื่นเต้น จุดธูปบอกให้ป้าไพจิตมาเล่าบ้างก็ ไม่มา.................. รักพี่และน้องเป้ามาก ปิ่น |
|
เจริญพร คุณหมอตุ๊ อาตมาขอตอบคำถามของเขาเลยว่า เมื่อจิตสุดท้ายเกิดขึ้น (เรียกว่า จุติจิต หรือมรณาสันนวิถี) จึงจะตายอย่างสมบูรณ์ จากนั้นจิตใหม่ก็จะเกิดขึ้นในภพภูมิใหม่ หากทำความดี สร้างบุญกุศลเป็นประจำ อีกทั้งก่อนตาย หรือช่วงที่จวนเจียนจะตายนั้น จิตเป็นกุศล นึกถึงสิ่งดีงาม เช่น พระรัตนตรัย หรือความดีที่ได้ทำ ไม่มีห่วงกังวล ก็จะไปเกิดในภพใหม่ที่เป็นสุคติ เช่น เป็นมนุษย์ หรือเทวดา(แต่ถ้าจิตปล่อยวางอย่างสิ้นเชิง เพราะเห็นว่าไม่มีอะไรน่ายึดถือ ก็อาจถึงขั้นหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ไม่ไปเกิดที่ไหนอีก ) แต่หากก่อนตาย จิตเป็นอกุศล เช่น โกรธ แค้น รู้สึกผิด หรือห่วงใย ไม่ว่าลูกหลาน ทรัพย์สมบัติ หรือคนรัก ดังนั้นก่อนตาย จึงควรน้อมจิตให้เป็นกุศล ละวางสิ่งทั้งปวง ให้อภัยทุกคน และนึกถึงสิ่งดีงาม ทั้งพระรัตนตรัย บุญกุศลหรือความดีที่เคยทำ อาจจะสวดมนต์ ทำจิตเป็นสมาธิ อยู่กับลมหายใจเข้าออก พุท-โธ หรือนึกภาพเห็นพระพุทธองค์ หรือนึกในใจว่ามีแสงสว่างแห่งกุศลทอดเป็นทางยาว แล้วเดินตามทางนั้นไป อย่างมั่นใจ ไม่หวั่นวิตก เป็นต้น หากเขาไม่ไหวจริง ๆ ก็อยากแนะนำให้เขาปล่อยวางเรื่องลูก มั่นใจว่าลูกจะดูแลตัวเองและมีชีวิตที่ก้าวหน้าได้แม้ไม่มีเขา ธรรมและพร ป.ล. ลูกชายเขามีความคิดที่จะบวชก่อนที่แม่จะเสียหรือไม่ ตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้ว ก่อนที่จะสายเกินไป |
รวบรวมงานเขียนและบทความของพระไพศาล
วิสาโล www.visalo.org korobiznet
เอื้อเฟื้อพื้นที่
|